จัดฟันแบบดิจิตอลคืออะไร?
ปัจจุบันการจัดฟันกำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก เป็นการรักษาการเรียงตัวของฟันที่รู้จักกันมาอย่างยาวนาน การจัดฟันไม่เพียงแต่ช่วยรักษาความผิดปกติของฟันเท่านั้น แต่ยังทำให้ได้รอยยิ้มที่สวยงาม สร้างความประทับใจได้ตั้งแต่แรกเห็นอีกด้วย การจัดฟันนั้นมีหลายแบบแต่วันนี้เราจะพาเพื่อนๆไปรู้จักกับการจัดฟันแบบดิจิตอลหรือการจัดฟันแบบใสนั้นเอง
การจัดฟันแบบดิจิตอล คือการการจัดฟันโดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยในการสร้างแผนการรักษา ควบคู่ไปกับการวินิจฉัยจากทันตแพทย์จัดฟัน การจัดฟันดิจิตอลจะใช้เครื่องมือติดฟันแบบใสทำมาจากพลาสติกเกรดมาตรฐานทางการแพทย์ มีขนาดเพียง 0.75 มิลลิเมตรเท่านั้น จึงทำให้ไม่ระคายเคืองและเป็นที่นิยมในหมู่ดารา นักแสดง หรือผู้ที่ไม่ต้องการให้เห็นเครื่องมือจัดฟัน
จัดฟันแบบดิจิตอลดียังไง
นอกจากการจัดฟันแบบดิจิตอลจะเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลกแล้ว การจัดฟันแบบดิจิตอลก็ยังส่งผลดีในด้านอื่นๆอีกมากมาย ดังนี้
นอกจากการจัดฟันแบบดิจิตอลจะเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลกแล้ว การจัดฟันแบบดิจิตอลก็ยังส่งผลดีในด้านอื่นๆอีกมากมาย ดังนี้
- ได้เห็นแผนการรักษาและผลลัพธ์ที่จะได้ก่อนเริ่มจัดฟัน
- ไม่สูญเสียความมั่นใจหล้งจากใส่อุปกรณ์ เนื่องจากอุปกรณ์เป็นพลาสติกใสและบางทำให้แทบมองไม่เห็น
- ป้องกันปัญหาฟันผุได้ดี เพราะอุปกรณ์สามารถถอดได้จึงลดโอกาสการสะสมของเศษอาหารตามซอกฟัน
- ไม่ต้องเสียเวลามาพบทันตแพทย์บ่อยๆ โดยปกติแล้วมักจำเป็นต้องเข้าคลินิกเพียง 6-8 สัปดาห์ต่อครั้งเท่านั้น
- แก้ไขปัญหาขากรรไกรและรูปหน้าที่ผิดสัดส่วนได้โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือทำศัลยกรรม
- มักใช้เวลาในการรักษาน้อยกว่าการจัดฟันแบบอื่นๆ
ขั้นตอนการจัดฟันแบบดิจิตอล
เมื่อรู้ถึงข้อดีของการจัดฟันแบบดิจิตอลไปแล้ว เรามาดูขั้นตอนการจัดฟันแบบนี้กันค่ะ
- ปรึกษาทันตแพทย์
ปรึกษาทันตแพทย์เพื่อทำการประเมินรอยยิ้ม พูดคุยถึงปัญหาที่ต้องการแก้ไขและผลลัพธ์ที่คาดหวัง รวมไปถึงวางแผนการรักษา ระยะเวลาในการรักษาเบื้องต้น
- เก็บข้อมูลและประวัติเพื่อวางแผนการรักษา
ทำการพิมพ์ฟัน สแกนและเอกซเรย์ฟัน บันทึกภาพใบหน้าและภายในช่องปาก จากนั้นข้อมูลทั้งหมดจะถูกส่งต่อไปที่แลปในประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อนำไปวางแผนการรักษา
- ส่องแผนการรักษา
คนไข้จะได้รับวิดีโอแผนการรักษา 3 มิติ (Smile Plan) ที่จะทำให้ท่าน เห็นการเปลี่ยนแปลงรูปฟันและการเคลื่อนตัวของฟัน รวมไปถึงผลลัพธ์สุดท้ายของการจัดฟันที่จะได้รับด้วย
- เตรียมทำอุปกรณ์
เตรียมทำอุปกรณ์จัดฟันดิจิตอลประมาณ 1-2 เดือน โดยใช้โปรแกรม CAD (Computer Aided Design) ช่วยในการวางแผนการเคลื่อนตัวของฟัน จากนั้นทันตแพทย์จะทำการวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมดก่อนทำการ สรุปแผนการรักษา เครื่องมือจัดฟันจะใช้เทคโนโลยี Stereolithography (SLA) ในการสร้างแบบฟัน ที่สามารถออกได้ตามรูปฟันของแต่ละคน
- พบทันตแพทย์เพื่อทำการเคลียช่องปาก และรับอุปกรณ์จัดฟัน
ก่อนเริ่มกระบวนการจัดฟันต่างๆ มีความจำเป็นที่จะต้องทำการเคลียช่องปาก โดยการขูดหินปูน อุดฟัน หรืออาจจะมีการกรอฟัน (IPR) ติด Attachment ทั้งนี้จะต้องทำอะไรบ้างนั้นขึ้นอยู่กับแผนการรักษาของแต่ละคน
การจัดฟันแบบดิจิตอลจะใช้เทคนิคการสแกนฟันด้วยเครื่องสแกนฟันที่ทันสมัย และใช้ระบบคอมพิวเตอร์ออกแบบขั้นตอนการรักษาไปพร้อมๆกับการวินิจฉัยของทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้วยเทคนิคนี้เองจึงทำให้การจัดฟันแบบดิจิตอลมักจะได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ
สุดท้ายนี้เชื่อว่าเพื่อนๆคงอยากจะจัดฟันแบบดิจิตอลเพื่อสร้างรอยยิ้มที่มั่นใจให้กับตัวเองกันแล้วใช่ไหมค่ะ อย่ารอช้าค่ะ เพื่อนๆสามารถเริ่มต้นพูดคุยกับทีมงานเซนยุมเพื่อปรึกษา สอบถาม และส่งรูปถ่ายเพื่อทำการประเมินฟันเบื้องต้นได้ก่อน โดยไม่มีค่าใช้จ่ายด้วยนะคะ