เมื่อพูดถึงปัญหาฟันสบกันผิดปกติ ฟันซ้อนเก ฟันยื่น ฟันห่าง หรือปัญหาไหนๆ ก็มักสร้างความเดือดร้อนให้เราไม่มากก็น้อย ซึ่งเชื่อว่าเพื่อนๆ ทุกคนก็ต้องอยากแก้ไขปัญหาเหล่านี้ใช่มั้ยล่ะ?
วันนี้เซนยุมจะพาไปทำความรู้จักกับการจัดฟันที่จะแก้ไขปัญหาฟันเหล่านี้กัน โดยบทความนี้เขียนโดย คุณหมอบอย หรือ ทพ.มณฑล ศักดานุวัตนกุล ทันตแพทย์ประจำคลินิกทันตกรรมสไมล์ ซีเล็คชั่น (Smile Selection Dental Clinic)
เมื่อพูดถึงปัญหาฟันสบกันผิดปกติ ฟันซ้อนเก ฟันยื่น ฟันห่าง หรือปัญหาไหนๆ ก็มักสร้างความเดือดร้อนให้เราไม่มากก็น้อย ซึ่งเชื่อว่าเพื่อนๆ ทุกคนก็ต้องอยากแก้ไขปัญหาเหล่านี้ใช่มั้ยล่ะ?
วันนี้เซนยุมจะพาไปทำความรู้จักกับการจัดฟันที่จะแก้ไขปัญหาฟันเหล่านี้กัน โดยบทความนี้เขียนโดย คุณหมอบอย หรือ ทพ.มณฑล ศักดานุวัตนกุล ทันตแพทย์ประจำคลินิกทันตกรรมสไมล์ ซีเล็คชั่น (Smile Selection Dental Clinic)
หลักการทำงานของอุปกรณ์จัดฟันแบบโลหะ
โดยทั่วไปแล้ว อุปกรณ์มักจะติดไว้ที่ด้านข้างของตัวฟัน จากนั้นใส่ลวดเข้ากับอุปกรณ์ และใช้ยางจัดฟันเกี่ยวไว้กับอุปกรณ์เพื่อทำการยึดลวดไว้ (Conventional brackets)
หรือบางชนิดไม่จำเป็นต้องเกี่ยวยางที่อุปกรณ์ก็สามารถล๊อคตัวลวดเข้ากับอุปกรณ์ได้ด้วยตัวเอง (Self ligate brackets)
อุปกรณ์จัดฟันที่กล่าวมาข้างต้น ออกแรงต่อฟันด้วยการ “ดึงฟัน” เพื่อให้ฟันเคลื่อนไปตามตำแหน่งที่ต้องการในแต่ละครั้งของการปรับเครื่องมือ
ข้อดีของการจัดฟันแบบโลหะ
– สามารถจัดฟันที่มีความซับซ้อนได้ทุกรูปแบบ
– สามารถเปลี่ยนสียางได้ทุกเดือน ตามความต้องการ
– ราคาเข้าถึงได้ง่าย
ข้อจำกัดการจัดฟันแบบทั่วไป
– ต้องเข้าพบทันตแพทย์ทุกเดือน เพื่อทำการปรับเครื่องมือ
– ทุกครั้งที่ปรับเครื่องมือจะค่อนข้างปวดฟัน
– มีข้อจำกัดในการทานอาหารบางประเภท
– ดูแลทำความสะอาดได้ยากกว่า
ขั้นตอนการจัดฟันแบบโลหะ
1. เก็บข้อมูล พิมพ์ปาก ถ่ายเอกซเรย์ ตรวจเช็คสภาพฟันเพื่อเคลียร์ช่องปาก
2. เคลียร์ช่องปาก อุดฟัน ขูดหินปูน ถอนฟัน
3. นัดติดเครื่องมือ
4. นัดปรับเครื่องมือเดือนละครั้ง จนกว่าฟันจะเรียงได้ที่ตามต้องการ ระยะเวลาแตกต่างกันไปในแต่ละคน ขึ้นอยู่กับสภาพฟัน
5. เมื่อฟันเข้าที่เรียบร้อยได้ทั้งความสวยงามและการบดเคี้ยว ทันตแพทย์จะถอดเครื่องมือ และทำรีเทนเนอร์ เพื่อคงสภาพฟัน
หลักการทำงานของอุปกรณ์จัดฟันแบบใส
การเคลื่อนฟันด้วยอุปกรณ์จัดฟันใส จะแตกต่างกับอุปกรณ์จัดฟันแบบทั่วไป โดยนำเอาเครื่องมือจัดฟันใสใส่ครอบลงบนตัวฟัน ให้แรงต่อฟันด้วยการ “ผลักฟัน” ให้ฟันเคลื่อนไปในตำแหน่งที่วางแผนไว้
ข้อดีการจัดฟันใส
– สามารถแก้ไขปัญหา ฟันซ้อน ฟันเก ฟันห่าง หรือปัญหาอื่นๆ
– ไม่มีโลหะที่อาจส่งผลให้เกิดการระคายเคืองในช่องปาก
– ถอดออกมาดูแลรักษาความสะอาดอุปกรณ์ได้ง่าย
– คงบุคลิกภาพเดิมของผู้จัดฟัน สามารถพูด ยิ้มกว้าง ได้อย่างเต็มที่ โดยแทบจะไม่สังเกตเห็นอุปกรณ์จัดฟันใส
– ไม่ต้องพบทันตแพทย์บ่อย เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาว่าง
– เห็นผลลัพธ์ที่จำลองไว้ก่อนตัดสินใจจัดฟัน
ข้อจำกัดการจัดฟันใส
– มีราคาสูงกว่าการจัดฟันแบบทั่วไป
– จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือของคนไข้สูง เนื่องจากต้องใส่อุปกรณ์วันละ 20-22 ชั่วโมง
ขั้นตอนการจัดฟันแบบใส
1.ปรึกษาและวางแผน เคลียร์ช่องปาก ถ่ายรูปภาพในช่องปากและใบหน้า ถ่ายเอกซเรย์ พิมพ์ฟันหรือสแกนฟัน จากนั้นส่งข้อมูลไปยังแล็บเพื่อทำการผลิตอุปกรณ์จัดฟันใส
2.นัดพบทันตแพทย์เพื่อรับอุปกรณ์จัดฟันใส และคำแนะนำในการใช้พร้อมทั้งการดูแลอุปกรณ์จัดฟันใส
4.นัดพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสอบการเคลื่อนที่ของฟันเป็นระยะ เวลาแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับสภาพฟัน
5.เมื่อฟันเข้าที่เรียบร้อยแล้ว ทันตแพทย์จะถอดอุปกรณ์เสริม(ถ้ามี) และทำรีเทนเนอร์ เพื่อคงสภาพฟัน
หากต้องการรีบแก้ไขปัญหาฟัน เลือกจัดฟันแบบไหนเร็วที่สุด?
ถ้าเป็นเคสจัดฟันที่ยากและมีความซับซ้อนสูง การจัดฟันแบบทั่วไปจะให้ผลลัพธ์ที่มีความแม่นยำสูง สามารถควบคุมการเคลื่อนที่ของฟันได้ดีกว่า และหากมีการถอนฟันร่วมกับการจัดฟันด้วย ระยะเวลาของการจัดฟันแบบทั่วไปจะใช้เวลาน้อยกว่าการจัดฟันแบบใส
ในกรณีเป็นเคสจัดฟันที่มีความซับซ้อนน้อย ฟันบิดหมุนเล็กน้อย การซ้อนเกของฟันไม่มาก การจัดฟันใสจะใช้เวลาน้อยกว่าการจัดฟันแบบปกติ
บทความโดย
ทพ.มณฑล ศักดานุวัตนกุล (หมอบอย)
ทันตแพทย์ประจำคลินิกทันตกรรมสไมล์ ซีเล็คชั่น (Smile Selection Dental Clinic)
บทความโดย
ทพ.มณฑล ศักดานุวัตนกุล (หมอบอย)
ทันตแพทย์ประจำคลินิกทันตกรรมสไมล์ ซีเล็คชั่น (Smile Selection Dental Clinic)