หลายคนที่เคยถอนฟันไปจนทำให้มีฟันแท้ไม่ครบ หรือกำลังมีปัญหาเรื่องฟันผุลึกละก็ คงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องใช้ตัวช่วยอย่าง “ฟันปลอม” มาเพื่อทดแทนฟันธรรมชาติที่หายไปและเรียกความมั่นใจกลับคืนมา ดังนั้นวันนี้เราจึงเอาข้อมูลเรื่องของฟันปลอมมาฝากกันค่ะ ให้เพื่อนๆ ได้คลายความสงสัยกัน ไม่ว่าจะเรื่องประเภทของฟันปลอม การเลือกใช้ฟันปลอม วิธีการรักษา และคำถามยอดฮิตว่าถ้าใส่ฟันปลอมอยู่จะจัดฟันได้ไหม
ฟันปลอมคืออะไร
ฟันปลอมคือสิ่งที่ทำขึ้นมาเพื่อทดแทนฟันธรรมชาติที่สูญเสียไปอย่างถาวร นอกจากการใส่ฟันปลอมแทนจะช่วยเพิ่มความมั่นใจแล้ว ยังช่วยแก้ปัญหาในการรับประทานอาหาร การออกเสียง และคอยพยุงแก้มและริมฝีปากไม่ให้ดูหย่อนคล้อยอีกด้วย ในการใส่ฟันปลอมในครั้งแรกนั้นอาจต้องใช้เวลาระยะหนึ่งในการปรับตัวให้คุ้นชิน เมื่อใช้งานจนคุ้นชินแล้ว เราก็จะสามารถใช้ฟันปลอมในการดำรงชีวิตได้เหมือนเป็นอวัยวะอีกชิ้นหนึ่งเลยค่ะ
ฟันปลอมมีกี่แบบ
ประเภทของฟันปลอม แบ่งออกได้เป็น 2 แบบใหญ่ๆ คือ ฟันปลอมแบบถอดได้ , ฟันปลอมแบบติดแน่น ซึ่งจะมีคุณลักษณะและข้อดีข้อเสียที่ต่างกันออกไป ดังต่อไปนี้
1. ฟันปลอมแบบถอดได้ (Temporary plate)
ฟันปลอมชนิดนี้มีคุณสมบัติตามชื่อเลยก็คือสามารถถอดออกได้ ทำให้สามารถทำความสะอาดได้ดียิ่งขึ้น สามารถถอดออกมาล้างนอกช่องปากได้ ฟันปลอมแต่ละซี่จะถูกยึดติดอยู่กับฐานของฟันปลอม ซึ่งตัวฐานของฟันปลอมมักทำมาจากพลาสติก หรือโลหะ โดยทั้งสองแบบจะมีการใช้อะครีลิกสีชมพู ตกแต่งให้ดูคล้ายคลึงกับเหงือกธรรมชาติร่วมด้วย เหมาะสำหรับคนที่มีการสูญเสียฟันตั้งแต่ 1 ซี่ ขึ้นไป หรือไม่มีฟันในช่องปากเลย
ราคาฟันปลอมแบบถอดได้ เริ่มต้นประมาณ 4,000 – 20,000 บาท ฟันปลอมแบบถอดแบบโลหะจะมีราคาที่สูงกว่าแบบพลาสติก เพราะมีน้ำหนักเบา แข็งแรงและคลุมฟันได้มากกว่า
ข้อดีของฟันปลอมแบบถอดได้
- สามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้ดีกว่า ทั้งภายใน และภายนอก
- ราคาไม่แพง เมื่อสูญหาย หรือชำรุด สามารถทำใหม่ได้
- ใช้เวลาในการทำฟันปลอมไม่นาน
ข้อเสียฟันปลอมแบบถอดได้
- ฐานของฟันปลอมสามารถดูดสีและกลิ่นจากอาหารที่รับประทานเข้าไปได้
- ประสิทธิภาพในการเคี้ยวอาหารต่ำกว่าฟันปลอมชนิดอื่น
- ให้ความสวยงามไม่เท่าแบบติดแน่น เนื่องจากจะต้องใช้ตะขอเกี่ยว
2. ฟันปลอมแบบติดแน่น(Fixed Denture)
ฟันปลอมชนิดนี้คนมักจะเรียกว่า ฟันปลอมถาวร นั้นก็เป็นเพราะว่าฟันปลอมขนิดนี้ไม่สามารถถอดออกมาทำความสะอาดแบบฟันปลอมถอดได้นั้นเอง ดังนั้นเราจึงต้องดูแลฟันแบบติดแน่นนี้เสมือนดูแลฟันแท้โดยการแปรงฟันตามปกติแล้วใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดใต้สะพานฟัน ระวังอาหารที่แข็งหรือเหนียวมากๆ
การทำฟันปลอมแบบติดแน่น จะอาศัยฟันธรรมชาติซี่ที่อยู่ข้างเคียงกับช่องว่างเป็นหลักในการยึดฟันปลอม โดยเรียกว่าการครอบฟัน หรืออีกกรณีคือการทำสะพานฟันมีลักษณะคล้ายๆ สะพานเชื่อม
นอกจากนี้การทำฟันปลอมติดแน่นยังสามารถทำได้อีกวิธีหนึ่งคือการติดแน่นด้วยรากฟันเทียม
ฟันปลอมติดแน่นด้วยรากฟันเทียม คือการฝังรากฟันเทียมไททาเนียมลงไปในกระดูกขากรรไกร ยึดติดกับตัวเนื้อฟันจากเรซินเพื่อใช้บดเคี้ยว ทำหน้าที่ได้เหมือนกับฟันธรรมชาติ โดยสามารถใช้รากฟันเทียมเพื่อใส่ฟันปลอมได้ตั้งแต่ 1 ซี่ขึ้นไป
ราคาฟันปลอมแบบติดแน่น เริ่มต้นประมาณ 15,000 บาทขึ้นไป ฟันปลอมแบบติดแน่นจะมีราคาที่สูงกว่าแบบถอดได้ โดยเฉพาะการทำฟันปลอมติดแน่นด้วยรากฟันเทียมอาจสูงถึง 70,000 บาท
ข้อดีของฟันปลอมแบบติดแน่น
- มีลักษณะ สี และการสะท้อนแสงที่ให้ความเป็นธรรมชาติมากกว่า
- ให้ความรู้สึกเหมือนได้ใช้ฟันแท้ เพราะไม่มีส่วนฐานฟันมาทำให้ระคายเคือง
- อายุการใช้งานยาวกว่า เพราะไม่ต้องกังวลว่าฟันปลอมจะหลวม, ฐานฟันปลอมจะมีการดูดสีหรือกลิ่น
- มีประสิทธิภาพในการบดเคี้ยวหรือออกเสียงใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติ
ข้อเสียฟันปลอมแบบติดแน่น
- ราคาสูงกว่าแบบถอดได้ เพราะราคาจะคิดรวมซี่ที่เป็นหลักยึดด้วย เช่น หากฟันหายไป 1 ซี่ จะต้องใส่ฟันทั้งหมด 3 ซี่
- ไม่สามารถถอดออกมาทำความสะอาดภายนอกช่องปากได้
- จำเป็นต้องกรอฟันธรรมชาติข้างเคียง ที่ไม่ได้มีปัญหาออกด้วย
ใส่ฟันปลอมอยู่ อยากจัดฟันทำได้ไหม
ส่วนมากแล้วการใส่ฟันปลอมไม่ได้เป็นข้อจำกัดในการจัดฟันแต่อย่างใด สามารถจัดฟันได้ตามปกติไม่ว่าจะเป็นการจัดฟันแบบลวดหรือการจัดฟันแบบใสก็ตาม ยกเว้นกรณีใส่ฟันปลอมแบบติดเเน่นด้วยรากฟันเทียม
สำหรับคนที่ใส่ฟันปลอมแบบถอดได้ ทันตแพทย์มักจะแขวนฟันปลอมซี่ใหม่ที่ทำขึ้นไว้กับเครื่องมือจัดฟัน คนไข้จะใส่เครื่องมือจัดฟันโดยที่มีตัวฟันปลอมร้อยอยู่ในเซ็ทแบร็คเก็ต หากจัดฟันแบบใส ทันตแพทย์จะออกแบบอุปกรณ์ให้เว้นช่องไว้สำหรับใส่ฟันปลอมถาวรเมื่อจัดฟันแบบใสเสร็จเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ดีสุดท้ายแล้วเมื่อจัดฟันเสร็จ ทันตแพทย์อาจมีการปรับเปลี่ยนขนาดของฟันปลอม หรืออาจไม่ต้องใช้ฟันปลอมอีกเลยก็ได้แล้วแต่เคสของแต่ละคน
สำหรับคนที่ใส่ฟันปลอมแบบติดแน่น (ที่ไม่ได้มีผลต่อการยึดของรากฟัน)จะสามารถจัดฟันได้ตามปกติเลย ไม่ว่าจะเป็นการจัดฟันแบบลวดหรือการจัดฟันแบบใสก็ตาม สุดท้ายหากตัดสินใจทำฟันปลอมแล้วละก็ เพื่อนๆก็ยังสามารถจะรอยยิ้มที่สมบูรณ์แบบได้อยู่ด้วย เพราะการมีฟันปลอมไม่ได้เป็นอุปสรรค์ต่อการจัดฟัน (ยกเว้นในกรณีฟันปลอมแบบติดเเน่นด้วยรากฟันเทียม)
ประเมินฟันฟรีก่อนจัดฟัน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม และติดตามโปรโมชันจัดฟันใสได้ที่
Line Official ID: @zenyumth