เวลาที่เรามองไปที่คนอื่นๆที่ประสบความสำเร็จเรามักจะมีคำถามว่าเขาทำได้ยังไงกันนะ ทำไมเราถึงไม่ประสบความสำเร็จแบบเขาบ้าง สาเหตุหนึ่งอาจจะมาจากนิสัยที่เราไม่รู้ตัวนั่นเอง! นิสัยพวกนี้จะคอยขัดขวางเราจากการทำงานที่มีประสิทธิภาพ
ดังนั้นวันนี้มารู้จัก 3 นิสัยไม่ดีที่เราไม่ค่อยรู้ตัวและวิธีรับมือกับพวกมันกันดีกว่า
1. มีข้อสงสัยในตัวเอง
หากคุณคิดว่างานที่คุณกำลังไปสัมภาษณ์นี้คุณไม่มีทางได้แน่ๆเพียงเพราะว่าคุณไม่มั่นใจ หรือคล้ายๆกันกับเวลาคุณไปเดทครั้งแรกแล้วคิดว่าอีกฝ่ายไม่มีวันชอบเราแน่ๆ แล้วก็มีความคิดที่ว่า “นี่มันเสียเวลาจริงๆ” ผลสุดท้าย คู่เดทของคุณอาจจะคิดว่าตัวคุณนั่นแหละที่ไม่ได้สนใจเขาเลยแม้แต่นิดเดียว
พอมีความข้องใจในตัวเองเราก็จะคิดมากและในสุดท้ายก็จะคิดไปเอง เพราะโดยปกติแล้วผู้คนจะสงสัยในตัวเองก็ต่อเมื่อถูกกระทำหรือตอบสนองตามแบบนั้น
วิธีที่จะเอาชนะสิ่งนี้ได้คือ ทำให้การคิดบวกกับตัวเองให้เป็นนิสัย มันอาจจะดูธรรมดามากๆกับบอกตัวเองในกระจกว่าคุณเป็นคนเก่งและดูดี
แต่เมื่อเวลาผ่านไปคุณจะเริ่มมั่นใจมากขึ้น รวบรวมทักษะและความสำเร็จของที่คุณสามารถย้อนกลับมาดูได้เพื่อเพิ่มความมั่นใจในตัวเอง คิดสิ่งที่คุณกำลังบอกตัวเองและคิดว่าถ้าพูดกับเพื่อนตัวเองจะพูดออกไปไหม ถ้าไม่ แสดงว่าคุณน่ะกดดันกับตัวเองเกินไปแล้ว
หรือแม้แต่การยิ้มในตอนที่คุณจะไม่อยากก็ตาม แต่คุณรู้ไหมว่าการยิ้มสามารถเพิ่มโอกาสในการบรรลุเป้าหมายได้มากขึ้นเพราะว่ามันจะยกระดับอารมณ์ของคุณและช่วยให้คุณมีทัศนคติที่ดีมากขึ้น คุณจะหาวิธีแก้ปัญหาได้ง่ายขึ้นแทนที่จะตัดปัญหานั้นไปนั่นเอง
2. การตัดสินใจที่ไม่ดี
คุณอาจเคยได้ยินเกี่ยวกับ“ การสูญเสียต้นทุนที่ไม่ดี” ซึ่งก็คือเมื่อคน ๆ หนึ่งยังคงตัดสินใจโดยพิจารณาจากการลงทุนเวลาหรือเงินก่อนหน้านี้ ตัวอย่าง เช่นการกินอาหารต่อไปแม้ว่าคุณจะไม่ชอบรสชาติของมันเพราะคุณ“ จ่ายเงินไปแล้ว” ไม่ใช่การตัดสินใจที่มีเหตุผลเพราะคุณจะไม่ได้เงินคืนเมื่อทานอาหารเสร็จหรือไม่
ในความเป็นจริงอาจมีค่าใช้จ่ายที่แท้จริงอื่น ๆ ที่คุณไม่ได้พิจารณา เช่น รู้สึกไม่สบายท้องหรือไม่มีความสุขมากขึ้นหลังจากรับประทานอาหารซึ่งทำให้คุณแย่ลง
วิธีการลดการสูญเสียของคุณทำได้ไม่ยาก ก็คือ
สบายใจกับการสูญเสียบางสิ่งไม่ว่าจะเป็นเงินหรือเวลา หากคุณไม่ชอบเค้กก็ปล่อยให้คิดถึงเงินที่คุณใช้ไป และมุ่งเน้นไปที่ตัวเลือกเค้กอื่น ๆ ในครั้งต่อไป หากคุณไม่ชอบคอนเสิร์ตหรือรายการที่คุณกำลังดูอยู่ ก็อย่าเสียเวลาไปเปล่า ๆ เดินออกไป และทำอย่างอื่นที่คุณชอบมากขึ้น
3. วางแผนให้น้อยลง ลงมือทำให้มากขึ้น
วางแผนและการทำเช็คลิสต์ไม่เหมือนกับการลงมือทำ การวางแผนเป็นสิ่งสำคัญ แต่การวางแผนมากเกินไปอาจเป็นรูปแบบหนึ่งของการผัดวันประกันพรุ่งได้เช่นกัน
ผู้คนมักจะประเมินระยะเวลาที่ต้องทำงานให้เสร็จต่ำเกินไป ซึ่งหมายความว่าหากคุณต้องการบรรลุเป้าหมายคุณควรดำเนินการให้เร็วที่สุดเพื่อที่จะได้เริ่มเรียนรู้และก้าวไปสู่เป้าหมายใหม่
สำหรับบางคนนี่หมายถึงการกำหนดระยะเวลาให้กับตัวเองเช่นตั้งเป้าหมายว่าจะทำโครงการหนึ่งส่วนให้เสร็จก่อนเวลาอาหารกลางวัน เมื่อคุณทำเสร็จแล้วให้ขีดฆ่าสิ่งที่ต้องทำของคุณ โดยธรรมชาติจิตใจของคุณจะเปลี่ยนเป็นบวกในการทำโครงงานให้เสร็จ
บางครั้งอาจเป็นไปได้ว่าการนัดหมายที่คุณรู้ว่าดีสำหรับคุณ แต่คุณได้เลื่อนเวลาออกไปเพราะชีวิตวุ่นๆของคุณ ลองโน้ตการนัดหมายนั้นและทำเครื่องหมายใน Google Calendar ของคุณดูสิเพื่อให้คุณมุ่งมั่นที่จะก้าวไปอีกขั้น