ปวดฟัน ฟันผุ มีหินปูนและมีกลิ่นปากทำอย่างไรดี ทั้งๆ ที่แปรงฟันทุกวันอยู่เเล้ว แน่นอนว่าปัญหาเหล่านี้จะต้องกวนใจใครหลายๆคนที่กำลังแปรงฟันผิดวิธีโดยไม่รู้ตัวอยู่แน่ๆ การแปรงฟันที่ถูกต้องจะช่วยกำจัดเศษอาหารและคราบสกปรกตามซอกฟัน และลดการรวมตัวกันของเชื้อแบคทีเรียในช่องปากด้วย หากอยากมีสุขอนามัยในช่องปากที่ดี มีรอยยิ้มที่สวยงามละก็ ลองดูขั้นตอนแปรงฟันถูกวิธีที่เรานำมาฝากกันในบทความนี้เลยค่ะ
7 ขั้นตอนแปรงฟันที่ถูกวิธี
ขั้นตอนการแปรงฟัน 7 ขั้นตอนที่คุณควรให้ความสำคัญ เเละยังเป็นส่วนสำคัญในรักษาและป้องกันฟันผุ เหงือกอักเสบ รวมถึงปัญหากลิ่นปากได้อย่างเห็นผล
ขั้นตอนที่ 1
เราต้องวางแปรงสีฟันให้ปลายขนแปรงอยู่บริเวณขอบเหงือก โดยเอียงแปรงประมาณ 45 องศา
ขั้นตอนที่ 2
ขยับแปรงสีฟันไปมาในด้านหน้าและหลังโดยออกแรงเล็กน้อยเป็นระยะสั้นๆ ไม่เกินครึ่งซี่ฟัน
ขั้นตอนที่ 3
สำหรับการแปรงฟันด้านนอกและด้านใน ให้แปรงปัดลงเมื่อทำความสะอาดฟันบน และสำหรับฟันล่างให้แปรงแบบปัดขึ้น
ขั้นตอนที่ 4
สำหรับฟันด้านบดเคี้ยว ให้วางแปรงไว้ด้านบนของฟันบดเคี้ยว แล้วถูไป-มาในแนวหน้า-หลัง ทั้งฟันด้านบนและฟันด้านล่าง
ขั้นตอนที่ 5
สำหรับฟันด้านในทั้งฟันหน้าบนและฟันหน้าล่าง ให้ใช้ปลายแปรงสีฟันแปรงด้านหลังของฟันแต่ละซี่ โดยวางแปรงเป็นแนวตั้ง หลังจากนั้นทำการขยับปัดปลายแปรงมาทางปลายขอบฟัน
ขั้นตอนที่ 6
แปรงลิ้น เป็นส่วนที่หลายๆคนมักจะลืมแปรงมากที่สุด ทุกคนสามารถแปรงลิ้นได้ โดนการปัดขนแปรงสีฟันจากโคนลิ้นมาทางปลายลิ้น เพื่อกำจัดคราบจุลินทรีย์และไม่ให้เกิดกลิ่นปาก
ขั้นตอนที่ 7
ในทุกๆตำแหน่งที่ต้องทำความสะอาด เราควรจะแปรงประมาณ 10 ครั้งหรือประมาณ 2 นาทีด้วยนะคะ
เมื่อเรารู้วิธีขั้นตอนแปรงฟันถูกวิธีแล้วละก็ อย่าลืมว่าเราจำเป็นจะต้องแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งด้วยนะคะ ในช่วงหลังอาหารเช้า และก่อนเข้านอนเพื่อช่วยลดการก่อตัวของคราบแบคทีเรีย การจะมีสุขภาพปากและฟันที่ดีได้นั้นเราไม่เพียงแค่ต้องใส่ใจในขั้นตอนการแปรงฟัน 7 ขั้นตอนเท่านั้นแต่การเลือกแปรงสีฟันและระยะเวลาในการเปลี่ยนแปรงสีฟันของเรานั้นก็สำคัญไม่แพ้กัน
วิธีเลือกแปรงสีฟันและระยะเวลาที่ควรเปลี่ยนแปรง
โดยเฉลี่ยแล้วควรเปลี่ยนแปรงสีฟันทุก 3 เดือน ถึงแม้ว่าแปรงจะยังอยู่ในสภาพดีก็ตาม เพราะช่วงแรกขนแปรงจะมีความยืดหยุ่นได้ดี แต่พอนานไปความยืนหยุ่นก็จะเริ่มไม่มีประสิทธิภาพ
แปรงสีฟันในปัจจุบันก็มีให้เลือกหลายแบบจนบางทีอาจจะเลือกไม่ถูก แต่เราขอแนะนำให้เลือกง่ายๆ โดยเลือกจากขนาดที่พอดีกับปากของเรา ขนของแปรงสีฟันที่มีความนุ่ม ขนแปรงไม่อมน้ำ แห้งไว ด้ามแปรงจับถนัดมือ มีความโค้งงอของด้ามเพื่อเข้าถึงการทำความสะอาดฟันที่อยู่ด้านในได้ หรืออีกทางเลือกนึงก็คือ “แปรงสีฟันไฟฟ้า”
ที่ได้รับการยอมรับทางการแพทย์แล้วว่าทำงานได้ดีกว่าแปรงทั่วไป เพราะเป็นแปรงที่มีการเคลื่อนไหวเฉพาะส่วนหัวแปรงในลักษณะบิดไปมาและหมุนเป็นรูปวงกลมที่จะเข้าถึงการทำความสะอาดได้ดีมากขึ้น ทำให้มั่นใจได้ว่าสิ่งสกปรกจะไม่ติดตามซอกฟัน
หากจะพูดถึงแปรงสีฟันไฟฟ้าแล้วละก็ จะไม่พูดแปรงสีฟันไฟฟ้าเซนยุมเลยก็คงเป็นไปไม่ได้เนื่องจากคุณภาพที่โดดเด่นกว่าแปรงสีฟันไฟฟ้าทั่วไป ราคาจับต้องได้ ปรับได้ 3 โหมด ขนแปรงทำจากดูปองท์ไนลอน มีตัวจับเวลาแปรงฟัน 2 นาที สามารถทนน้ำได้ อีกทั้งยังสามารถแบ่งใช้ด้านหน้าแปรงฟัน ด้านหลังแปรงลิ้นได้อีกด้วยฟังก์ชั่นครบสุดๆเลย หากเพื่อนๆคนไหนสนใจละก็สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
แปรงฟันถูกวิธีแล้วไหมขัดฟันยังจำเป็นหรือไม่ ?
การใช้ไหมขัดฟันเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยกำจัดเศษอาหารออกจากซอกฟันที่แปรงสีฟันเข้าไม่ถึง ดังนั้นหากเราต้องการหลีกเหลี่ยงปัญหาฟันและเหงือกที่จะตามมาละก็เราก็ควรที่จะใช้ไหมขัดฟันควบคู่กันไปกับการแปรงฟัน สามารถเลือกใช้ได้ทั้งก่อนหรือหลังแปรงฟัน อย่างน้อยวันละครั้ง การใช้ในช่วงแรกอาจทำให้รู้สึกเจ็บหรือมีเลือดออกได้ แต่ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะเหงือกจะคุ้นชินและแข็งแรงขึ้นเอง หากเราทำเป็นประจำ
สุดท้ายนี้ปัญหาปวดฟัน ฟันผุ หินปูนและกลิ่นปากต่างๆก็จะหมดไปเมื่อเราทำตามขั้นตอนการแปรงฟัน 7 ขั้นตอนที่เรานำมาฝากกันและที่สำคัญเลยก็คืออย่าลืมที่จะแปรงลิ้นด้วยเพื่อช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียที่ลิ้น และช่วยลดกลิ่นปากได้ดียิ่งขึ้น
มากไปกว่านั้นเราไม่ควรใช้แปรงสีฟันอันเดิมเกิน 3 เดือน หากอยากมั่นใจในประสิทธิภาพในการเลือกแปรงสีฟันละก็ เพื่อนๆสามารถเลือกใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าเซนยุมได้เลย เนื่องจากได้รับการยอมรับแล้วว่าทำงานได้ดีกว่าแปรงทั่วไป
ให้เราเป็นตัวช่วย
ดูแลเรื่องความสะอาด
รู้สึกต่างตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ลอง